ประวัติอาจารย์ ไพจิตร โคตรวิชัย

อาจารย์ไพจิตร โคตรวิชัย เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำ จังหวะเซิ้งกระติ้บข้าว ที่มีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงทุกวันนี้ เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำสำหรับเพลง มนต์รักหนองหาร การจัดการฟ้อนรำแสดงถวายหน้าพระที่นั่ง เป็นผู้ฝึกสอนและจัดการแสดงให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่อง

ประวัติอาจารย์ ไพจิตร  โคตรวิชัย
ประวัติอาจารย์ ไพจิตร  โคตรวิชัย

อาจารย์ไพจิตร โคตรวิชัย เป็นอดีตอาจารย์สอนนาฏศิลป์ โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล อ เมือง จ.สกลนคร เกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2542

สถานที่เกิด           จังหวัดสกลนคร

วันเดือนปีเกิด         วันที่ 24 พฤศจิกายน 2481
บิดา  มารดา         นายเงิน โคตรวิชัย และนางหมอก เสนาไชย


การศึกษา


   ประถม    ประถมศึกษา ชั้น ป 1 -7   โรวเรียนวัดแจ้งแสงอรุณ อ เมือง จ. สกลนคร
   มัธยม       มัธยมศึกษาตอนต้น ตอนปลาย ม 6  โรงเรียนสกลราชวิทยานุกูล
   ปริญญาตรี     วิทยาลัยครูสงขลา  โดยทุนของวิทยาลัยครูสวนสุนันทา

การทำงาน

 เมื่อจบ ม. 6 ได้เข้าทำงานเป็นครูสอนนาฏศิลป์  สังคมศึกษา ที่โรงเรียนสกลราษฏร์อนุกูล  
ครูใหญ่  ทิน พีระธรรม ครูใหญ่อื่นๆอีกได้แก่ ครูผิว  สิทธุรวิทย์  คณุฟอง นวลมณี  ทั้งนี้ ได้เพิ่ม
การสอนคหกรรม (เย็บปักถักร้อย ทำพานบายศรี) เป็นต้น
ต่อมาได้ไปสอนที่โรงเรียนเซนต์โยเซฟ  ท่าแร่ สอนนักบวชหญิงวิชาสังคมศึกษา และนาฏศิลป์
โดยได้รับอนุญาตให้พักในหอพักนักเรียนของโรงเรียน  ประหยัดค่าใช้จ่าย
ในระหว่างที่สอนในโรงเรียนเซนต์โยเซฟ ท่าแร่  เป็นครูผู้สอน การเดินพาเหรด การเต้นหน้าเวที
 กองเชียรในงานกีฬาสี  กีฬาจังหวัด  ของโรงเรียน  ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิกหลายครั้ง 
นอกจากนี้ ได้รับการส่งเสริม และสนับสนุนจากบาทหลวงคายให้ไปอบรมนาฏศิลป์ที่ อสร
ในช่วงปิดเทอมปลายทุกปี  รวมถึงการเข้ารับการอบรมในโรงเรียนต่างๆ ทำให้เพิ่มพูน         
ประสบการณ์ในการฟ้อนรำ มากขึ้นในทุกปี
ต่อมา อาจารย์ไพจิตร  ได้สอบเข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูสงขลา  เนื่องจากสอบได้เป็นคนที่ 
71 ของวิทยาลัยครูสวนสุนันทา ทำให้ต้องรับทุนไปเรียนต่อที่สงขลาแทน ทำให้อาจารย์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมภาคใต้  และเผยแพร่การฟ้อนรำ การทำบายศรี  ให้แก่โรงเรียน นักเรียน นักศึกษา ในภาคใต้  ตลอดจนมีโอกาสได้ไปแสดงในประเทศมาเลเซีย ด้วย นับเป็นครั้งแรกนำผลงานไปยังต่างประเทศ 

ผลงานที่โดดเด่น

1.    การประดิษฐ์ท่ารำ เซิ้งกระติ้บข้าว มีชื่อและท่ารำ ดังนี้
ท่าปั้นข้าวเหนียว  จากวัฒนธรรมการกินข้าวเหนียว
ท่าเช็ดมือที่สะโพก  (มือทั้งสองข้าง) ปัดที่ข้างสะโพกทั้งสอง
ท่าเข้าออก วงกลม   การรำหันหน้าเข้าวงกลม สลับกัน เข้าออก กับคนในวง
ท่าอาย    เอามือสองข้างแตะที่แก้ม ทีละข้าง เอียงอาย
ท่ากวักมือ    วาดมือสองข้างขึ้นเหนือคิ้วแล้วขึ้นลง สะบัดออกพร้อมกัน
ท่าเข้าวงกลมและเช็ดมือที่สะโพก  เอียงตัวซ้ายขวาเมื่อเข้าวงกลม
 ท่ารำดังกล่าวข้างต้น อาจารย์ไพจิตร เป็นผู้ประดิษฐ์ให้เข้ากับจังหวะเซิ้งกระติ้บข้าว ซึ่งกรมศิลปากร ได้บันทึกเพียงว่า มีอาจารย์ภาคอีสานคนหนึ่งเป็นผู้ประดิษฐ็ท่ารำ ซึ่งคือ อาจารย์ไพจิตร  โคตรรวิชัย 
2.    การประดิษฐ์ท่ารำสำหรับเพลง มนต์รักหนองหาร ซึ่งอยู่ในชุดหนองหารแห่งความรัก
ขับร้องโดยรุ่งฤดี  แพ่งผ่องใส  (ขอให้อัดเพลงร้องและท่ารำจากอาจารย์ใหม่)
3.    การจัดการฟ้อนรำแสดง ถวายหน้าพระที่นั่ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
สมเด็จพระพันปีหลวง  (ขอรายละเอียดจากอาจารย์ พร้อมภาพถ่ายประกอบ)
4.    การฝึกสอนและจัดการแสดงให้แก่คณะชาวญี่ปุ่น  สำหรับงาน
โดยความร่วมมือกับสำนักงานท่องเที่ยว นครพนม  

What's Your Reaction?

like

dislike

love

funny

angry

sad

wow